บทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาวะ Filler Fatigue ว่าเกิดจากอะไร และป้องกันได้อย่างไร
แม้ว่าโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มโครงสร้างใบหน้าที่ยุบตัวลง ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์สดใสขึ้น แต่หากทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป อาจเกิดภาวะหน้าล้น หรือ Overfilled Syndrome และอาจเข้าสู่ภาวะที่เรียกว่า “Filler Fatigue” หรือ ใบหน้าอ่อนล้าจากสารเติมเต็ม (Filler) ซึ่งทำให้ใบหน้าดูบวม ตึง แลดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งลักษณะใบหน้าแบบนี้ถูกเรียกว่า Pillow Face เพราะใบหน้าดูบวม ตึง เป็นก้อนคล้ายกับหมอน โดยบทความนี้จะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับภาวะ Filler Fatigueหรือ ใบหน้าอ่อนล้าจากฟิลเลอร์ ว่าสาเหตุเกิดจากอะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไรบ้าง
ภาวะ Filler Fatigue หรือใบหน้าอ่อนล้าจากฟิลเลอร์ คืออะไร?
“Filler Fatigue” คือ ภาวะใบหน้าบวม ตึง พอง ที่มีสาเหตุมาจากการทำโปรแกรมฟิลเลอร์ซ้ำ ๆ บ่อยเกินไป หรือฉีดในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น รวมถึงขาดการวางแผนในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เช่น เน้นการฉีดแค่บางจุด โดยไม่คำนึงถึงภาพรวมและสัดส่วนของโครงสร้างใบหน้า ส่งผลทำให้ใบหน้าเสียสมดุล แลดูไม่เป็นธรรมชาติ
สัญญาณของภาวะ Filler Fatigue
- แก้มบวมเกินไป : หนึ่งในสัญญาณที่เห็นได้ชัดคือแก้มที่บวมฟู หรือกลมเกินธรรมชาติ ซึ่งมักเรียกกันว่า “Pillow Face”
- ใบหน้าดูผิดรูป : อวัยวะบางส่วน เช่น ริมฝีปาก แก้ม หรือใต้ตา อาจดูใหญ่จนล้น ดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
- ใบหน้าหย่อนคล้อยไม่กระชับ : เช่น กรอบหน้า หรือโหนกแก้ม หายไป ทำให้หน้าดูแบนหรือไม่มีมิติ
- แสดงสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ : ใบหน้าอาจเคลื่อนไหวอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ดูแข็งตึง หรือแสดงอารมณ์ได้ยาก
วิธีป้องกันภาวะ Filler Fatigue
- เลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ : การเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และเข้าใจโครงสร้างใบหน้าถือเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แลดูเป็นธรรมชาติ
- วางแผนการรักษาแบบเฉพาะบุคคล : เพราะแต่ละคนมีโครงสร้างใบหน้าและปัญหาที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ดีต้องเริ่มต้นจากการวินิจฉัย และออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล
- ฉีดในปริมาณที่พอดี : ไม่ควรฉีดในปริมาณเยอะในครั้งเดียว แต่ควรยึดหลัก “Less is more” ค่อย ๆ เติมทีละนิด เพื่อรอดูผลลัพธ์ก่อน
- เว้นระยะเวลาระหว่างการรักษา : ก่อนจะเติมครั้งต่อไป ควรให้เวลาฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไปได้ปรับตัว และผสานกับเนื้อเยื่อก่อน วิธีนี้จะช่วยป้องกันการสะสมของฟิลเลอร์เกินจำเป็น
SFIL PROGRAM โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แบบสแกนเห็น เทคนิคคุณหมอสร้อย
การวินิจฉัยและออกแบบการรักษาในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะ Filler Fatigue หรือใบหน้าอ่อนล้าจากฟิลเลอร์ ซึ่งอัฐฐา คลินิก (ATTA Clinic) ที่ดูแลโดย พญ. อทิตา อินทร์วงศ์ หรือคุณหมอสร้อย (ว.44231) ซึ่งเป็นแพทย์เฉพาะทางรังสีวินิจฉัย ได้นำการอัลตราซาวนด์เข้ามาร่วมในการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แบบสแกนเห็น หรือ SFIL Programโปรแกรม SFIL มาจากคำว่า SCAN-FILL-LIFT เทคนิคเฉพาะของอัฐฐา คลินิก (ATTA Clinic)
- SCAN : สแกนด้วยอัลตราซาวนด์ใบหน้า (Facial Ultrasound) เพื่อวางฟิลเลอร์อย่างแม่นยำ หลีกเลี่ยงเส้นเลือด และปรับตามโครงสร้างเฉพาะบุคคล
- FILL : เติมฟิลเลอร์ทดแทนกระดูกทรุด ยกพยุงเส้นเอ็นที่หย่อน ให้หน้าที่หย่อนคล้อยดูยกกระชับ และอ่อนเยาว์
- LIFT : ยกโครงหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นเติมถมร่อง คืนความสดใสแลดูอ่อนเยาว์
โดย SFIL Program ยังสามารถช่วยในการตรวจสอบตำแหน่งของฟิลเลอร์ที่ฉีดไปแล้ว ทำให้การเติมฟิลเลอร์ใหม่ สามารถหลีกเลี่ยงฟิลเลอร์เดิมที่ยังเหลืออยู่ เพื่อให้ใบหน้ามีปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่มากเกินไป ป้องกันการเกิดภาวะ Filler Fatigue หรือใบหน้าอ่อนล้าจากฟิลเลอร์อีกด้วย




