โปรแกรมแก้ไขฟิลเลอร์ สลายก้อนฟิลเลอร์
ด้วยอัลตราซาวด์วินิจฉัย
อัลตราซาวนด์ประเมินการสลายฟิลเลอร์ ด้วยเทคนิค Ultrasound นำทางการรักษาไปยังตำแหน่งฟิลเลอร์โดยตรง (Ultrasound-guided) ที่อัฐฐา คลินิก (Atta Clinic) คงมาตรฐานการดูแลที่สูงสุด และใช้เทคโนโลยี Ultrasound ถ่ายภาพความละเอียดสูง (High Resolution Ultrasound) ทำหัตถการโดยคุณหมอสร้อยแพทย์เฉพาะทาง ที่เชี่ยวชาญการทำ Ultrasound เพื่อวินิจฉัยตำแหน่งฟิลเลอร์เดิม และเล็งการรักษาเพื่อสลายฟิลเลอร์อย่างแม่นยำ ซึ่งวิธีการแบบเฉพาะจุดนี้ช่วยหลีกเลี่ยงการสลายฟิลเลอร์แบบ “สุ่ม” และมีข้อดี คือใช้ยาในปริมาณน้อยที่สุด
เหตุผลในการสลายฟิลเลอร์
ในบางครั้งการทำหัตถการฉีดฟิลเลอร์อาจไม่ได้ผลลัพธ์อย่างที่คาดหวังไว้
หรือเกิดผลบางอย่างที่ต้องการการสลายฟิลเลอร์ โดยภาวะแทรกซ้อนจากการฉีดฟิลเลอร์ที่พบได้บ่อยที่สุด
ดังนี้
- อาการบวม หรือพอง จากการฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป หรือภาวะหน้าล้น (Facial Overfilled Syndrome)
- ฟิลเลอร์เป็นก้อน โดยส่วนมากผู้ที่จะมีปัญหาฟิลเลอร์ที่ใต้ตาเป็นก้อน เนื่องจากบริเวณใต้ตาค่อนข้างบาง เมื่อเป็นก้อนจึงมองเห็นได้ชัด แต่การฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งอื่น ๆ บนใบหน้า เช่น ฟิลเลอร์หน้าผาก ฟิลเลอร์ร่องแก้ม ฟิลเลอร์ขมับ ก็สามารถเกิดการเป็นก้อนได้เช่นกัน
- การเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์
- การเปลี่ยนสีผิวเป็นสีน้ำเงิน (Tyndall effect)
- ความไม่เรียบเนียนของรูปทรง หรือความไม่สมมาตร
- ฟิลเลอร์ติดเชื้อ
- ภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง เช่น เนื้อตาย
การสลายฟิลเลอร์ มีแนวทางการรักษา
ที่แนะนำโดยทั่วไป 3 แบบ ได้แก่
การใช้ยาสลายฟิลเลอร์
เช่น การฉีดเอนไซม์เข้าไปในบริเวณที่มีฟิลเลอร์ชนิดกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) อยู่เดิม โดยเอนไซม์นี้จะทำหน้าที่สลายฟิลเลอร์ให้แตกตัวและถูกดูดซึมกลับโดยร่างกาย ส่งผลให้ผลลัพธ์ของฟิลเลอร์ลดลงหรือหายไป
นอกจากนี้ ยังมีการฉีดยากลุ่มสเตียรอยด์ในบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยลดการสร้างคอลลาเจน และทำให้ก้อนแข็ง หรือความไม่เรียบลดลง
การใช้เลเซอร์ภายในเเนื้อเยื่อ (Intralesional Laser Treatment)
ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการสลายฟิลเลอร์โดยไม่ต้องพึ่งการผ่าตัด ซึ่งที่อัฐฐา คลินิก ใช้ Endolift Laser ร่วมกับอัลตราซาวนด์นำทาง (Ultrasound-guided) ส่งเลเซอร์ไฟเบอร์ไปสลายฟิลเลอร์ และช่วยลดการเกิดพังผืดและอาการบวมที่เกิดจากฟิลเลอร์ได้ นอกจากนี้ Endolift ยังสามารถใช้ในการสลายฟิลเลอร์กลุ่มที่ไม่ใช่กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) เช่น RaDiesse และ Sculptra ได้ แต่อาจต้องทำการรักษาหลายครั้ง
การผ่าตัด
เป็นการรักษาขั้นสูงสุดสำหรับการกำจัดฟิลเลอร์ ในกรณีที่ฟิลเลอร์ที่ฉีดมาเกิดการจับตัวเป็นก้อน จนเกิดพังผืดเกาะ ทำให้ไม่สามารถใช้ยาสลายฟิลเลอร์ได้ ซึ่งฟิลเลอร์ประเภทนี้มักเป็นสารแปลกปลอม เช่น สาร PMMA (Polymethyl Methacrylate), ซิลิโคนเหลว และพาราฟิน ซึ่งเมื่อฉีดแล้ว สารเหล่านี้จะคงอยู่ถาวรในร่างกาย ดังนั้น การเอาสารแปลกปลอมเหล่านี้ออกจำเป็นต้องใช้วิธีการผ่าตัดเลาะออก ซึ่งมักจะไม่สามารถเอาออกได้ทั้งหมด ดังนั้น การผ่าตัดนี้ต้องดำเนินการโดยศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการกับฟิลเลอร์และสารแปลกปลอม
Assess, reverse and re-build
ประเมิน สลายฟิลเลอร์ และปรับโครงสร้างใหม่
สำหรับตัวอย่างผู้ป่วยที่มาพบด้วยปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อน คุณหมอสร้อยจะตรวจวินิจฉัยด้วย Ultrasound เพื่อประเมิน (Assess) ตำแหน่งฟิลเลอร์ ว่าอยู่ที่ส่วนไหนและความลึกเท่าไร และทำการรักษาสลายฟิลเลอร์ (Reverse) ด้วยเทคนิคภาพ Ultrasound นำทาง (Ultrasound-guided) ไปยังก้อนฟิลเลอร์ได้อย่างแม่นยำ จากนั้นจึงปรับโครงสร้างใหม่ (Re-build) โดยเลือกการรักษาตามความเหมาะสม
โดยการมองเห็นฟิลเลอร์แบบเรียลไทม์ด้วย Ultrasound เป็นส่วนหนึ่งของรักษา เพื่อจะได้มองเห็นปัญหาและตัดสินใจการรักษาร่วมกัน โดยคนไข้จะเห็นภาพฟิลเลอร์ในโครงสร้างใบหน้าของตัวเองไปพร้อมกับคุณหมอ และคุณหมอสามารถสลายฟิลเลอร์ที่ไม่ต้องการ ด้วยเทคนิค Ultrasound นำทาง
“การรักษาความงามด้วยการนำ Ultrasound เข้ามาช่วย เป็นการรวมความเชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยา และการแพทย์ด้านความงามของหมอเข้าด้วยกัน และมอบแนวทางที่โดดเด่นในเรื่องความปลอดภัยและการวินิจฉัยปัญหาให้ตรงจุดเพื่อเกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน”
พ.ญ. อทิตา อินทร์วงศ์ (คุณหมอสร้อย)
แพทย์เฉพาะทางด้านรังสีวินิจฉัย
