ฟิลเลอร์คืออะไร?
ฟิลเลอร์ (Fillers) คือ สารเติมเต็ม ที่ออกแบบมาเพื่อทดแทนปริมาตรที่สูญเสียไปในชั้นเนื้อเยื่อที่ลึกของใบหน้า สามารถใช้เพื่อฟื้นฟูความเต็มอิ่มบริเวณใบหน้ากลาง โหนกแก้ม และกราม รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยและร่องลึกในบริเวณใบหน้าที่อาจดูยุบตัวลงตามกาลเวลา
โดยสารฟิลเลอร์ที่ใช้ คือ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่พบได้ในร่างกาย และมีคุณสมบัติในการกักเก็บความชุ่มชื้น ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำและเต่งตึง ซึ่งสารนี้สามารถสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป จึงมีความปลอดภัยสูง และสามารถปรับแก้ไขได้หากจำเป็น
เทคนิคพิเศษในการฉีดฟิลเลอร์ เฉพาะที่อัฐฐา คลินิก
SFIL Program โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแบบสแกนเห็น
หลักการทำงานของการฉีดฟิลเลอร์ยกกระชับหน้า คือ การใช้ฟิลเลอร์ฉีดเพื่อเติมเต็มโครงสร้างใบหน้าที่ยุบตัวลง เช่น กระดูกที่กร่อนและไขมันชั้นลึกที่ลดลง และพยุงเส้นเอ็นที่หย่อนลงมา เมื่อเส้นเอ็นถูกยึดให้กลับมาอยู่ที่เดิม ก็จะไปดึงให้กล้ามเนื้อและผิวหนังยกขึ้นได้ ผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ดูยกกระชับ เต่งตึง และมีความสดใสอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น
โดยที่อัฐฐา คลินิก ใช้ชื่อว่า SFIL Program หรือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าแบบสแกนเห็น ด้วยเทคนิคที่คุณหมอสร้อยมีความเชี่ยวชาญ คือ การ Ultrasound ประเมินโครงสร้างใบหน้าก่อนการฉีดฟิลเลอร์

โปรแกรม SFIL มาจากคำว่า Scan-Fill-Lift
Scan
สแกนด้วยอัลตราซาวนด์ใบหน้า (Facial Ultrasound) เพื่อวางฟิลเลอร์อย่างแม่นยำ หลีกเลี่ยงเส้นเลือดและปรับตามโครงสร้างเฉพาะบุคคล
Fill
เติมฟิลเลอร์ทดแทนกระดูกทรุด ยกพยุงเส้นเอ็นที่หย่อน ให้หน้าที่หย่อนคล้อยดูยกกระชับ และอ่อนเยาว์
Lift
ยกโครงหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่เน้นเติมถมร่อง ทำให้ร่องใต้ตาและร่องแก้มตื้นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ฟิลเลอร์ออกฤทธิ์อย่างไร?
ฟิลเลอร์ผิวหนังที่เราใช้ในคลินิก ทำจากสารที่เรียกว่า กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นไกลโคโปรตีนที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติในผิวหนังของมนุษย์ แม้จะเป็นสารที่ผลิตสังเคราะห์ขึ้น แต่ก็มีลักษณะคล้ายกับกรดไฮยาลูโรนิกตามธรรมชาติที่ร่างกายมีอยู่ โดยกรดไฮยาลูโรนิกทำหน้าที่ให้โครงสร้างแก่เนื้อเยื่อและให้ความชุ่มชื้น ซึ่งสารนี้ประกอบด้วยโมเลกุลที่เชื่อมกันด้วยพันธะไขว้ (Cross-Links) เพื่อสร้างเจลที่คงรูปได้เมื่อฉีดเข้าไปในบริเวณที่ต้องการยกและเติมเต็มปริมาตร เมื่อฉีดเข้าไปใต้ผิวหนังในจุดที่ปริมาตรลดลง ฟิลเลอร์เหล่านี้จะช่วยฟื้นฟูความเต็มอิ่มของใบหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่งร่างกายสามารถย่อยสลายกรดไฮยาลูโรนิกได้เองตามธรรมชาติ ดังนั้นฟิลเลอร์จะค่อย ๆ ถูกดูดซึมกลับสู่ร่างกายอย่างปลอดภัย โดยไม่มีผลข้างเคียงถาวร
อย่างไรก็ตาม หากเกิดปัญหาหรือผลลัพธ์ทางด้านความงามที่ไม่พึงประสงค์หลังการฉีดฟิลเลอร์
โดยฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิกสามารถถูกสลายได้โดยการฉีดเอนไซม์ที่เป็นสารสลายฟิลเลอร์

ประเภทของฟิลเลอร์อาจแบ่งได้ง่าย ๆ ดังนี้
ฟิลเลอร์ประเภทชั่วคราว
ได้แก่ กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid Fillers) โดยเป็นฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งสารนี้สามารถสลายได้ตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป จึงมีความปลอดภัยสูงและสามารถปรับแก้ไขได้หากจำเป็น
ฟิลเลอร์ประเภทกึ่งถาวร
ฟิลเลอร์ที่ทำจากสารที่มีความหนาแน่นสูงกว่า และอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งจะอยู่ได้นานสูงสุดประมาณ 2 ปี แต่ต้องทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงสูงกว่า ซึ่งในประเทศไทยมักจะเรียกกลุ่มนี้ว่า Collagen Biostimulator หรือสารซ่อมแซมผิวเสื่อมสภาพตามวัย ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ผิว โดยผลลัพธ์จะเริ่มเห็นชัดเจนหลังจากการรักษาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน และสามารถคงอยู่ได้นานขึ้น ประมาณ 2 ปี ขึ้นกับสารออกฤทธิ์ เช่น
- Sculptra : มีสารออกฤทธิ์หลักคือกรดโพลีแอลแลคติก (PLLA)
- Radiesse : ประกอบด้วยแคลเซียมไฮดรอกซีอะพาไทต์ (Calcium Hydroxylapatite)
- Ultracol : มีสารออกฤทธิ์หลักคือ PDO หรือ Polydioxanone Microsphere
ฟิลเลอร์ประเภทถาวร
โดยเป็นฟิลเลอร์ประเภทที่สามารถอยู่ได้อย่างถาวร ไม่สลายไปตามธรรมชาติ โดยอาจก่อให้เกิดสารตกค้างที่ส่งผลต่อผิวในระยะยาวได้ เช่น เกิดการอักเสบเป็นก้อน ทำให้ใบหน้าผิดรูป เช่น ซิลิโคน และพาราฟิน และไม่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา จึงห้ามนำมาฉีดเด็ดขาด
ข้อดีของโปรแกรมฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นและให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ทันที โดยช่วยฟื้นฟูความเต็มอิ่มบริเวณใบหน้ากลางและส่วนล่าง ช่วยลดร่องความลึกของร่องน้ำตาและร่องแก้ม สามารถใช้เพื่อเสริมสร้างโครงสร้างใบหน้า เช่น การทำให้โหนกแก้มและแนวกรามดูเด่นชัด และสมดุลขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด
บริเวณที่สามารถรักษาได้ด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์
เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างใบหน้าของเรามักจะสูญเสียปริมาตร โดยเฉพาะชั้นกระดูกและไขมันชั้นลึก ซึ่งทำให้ใบหน้าทรุด เกิดความหย่อนคล้อย และเกิดร่องลึกต่าง ๆ เช่น ร่องน้ำตา ร่องน้ำหมาก และร่องแก้ม รวมถึงการหย่อนคล้อยของผิวที่ทำให้เกิดแนวกรามที่ไม่ชัดเจน ฟิลเลอร์จึงถูกนำมาใช้เพื่อยกใบหน้าและเติมเต็มปริมาตรที่สูญเสียไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรมชาติ การวางตำแหน่งฟิลเลอร์ไปยังชั้นโครงสร้างที่มีปัญหา จึงสามารถช่วยให้ใบหน้าดูยกกระชับขึ้นได้ เพื่อปรับปรุงและเสริมสร้างความงามให้ใบหน้าดูสมบูรณ์และสมดุล โดยตำแหน่งยอดนิยม ได้แก่
- การฉีดฟิลเลอร์ปาก ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและความอิ่มเต็มของริมฝีปาก รวมถึงช่วยปรับแต่งรูปทรงริมฝีปากให้สมดุลกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ
- การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นทางเลือกยอดนิยมในการลดเลือนร่องลึกใต้ตา ช่วยให้ใบหน้าดูสดชื่นและอ่อนเยาว์ขึ้น ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือความกระชับและให้ใบหน้าดูสดใสขึ้น
- การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ เพื่อยกกรอบหน้าและช่วยเพิ่มความเติมเต็มให้ใบหน้าที่ดูซูบหรืออ่อนล้า เพื่อให้ใบหน้าให้ดูสดใส
- การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้า เพื่อเติมเต็มโครงสร้างใบหน้าที่ยุบตัวลง เช่น กระดูกที่กร่อนและไขมันชั้นลึกที่ลดลง และพยุงเส้นเอ็นที่หย่อนลงมา เมื่อเส้นเอ็นถูกยึดให้กลับมาอยู่ที่เดิม ก็จะไปดึงให้กล้ามเนื้อและผิวหนังยกขึ้นได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือใบหน้าที่ดูยกกระชับ เต่งตึง และมีความสดใสอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

ปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน เกิดจากอะไร?
การฉีดฟิลเลอร์แล้วเกิดปัญหาก้อนบวมหรือฟิลเลอร์เป็นก้อน ถือเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ดังนี้
เลือกใช้ฟิลเลอร์ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้า
โดยฟิลเลอร์แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อ จะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน หากขนาดของโมเลกุลมีความหนาแน่นสูงหรือมีการดูดน้ำมาก ควรฉีดในโครงสร้างใบหน้าชั้นลึก ถ้านำมาฉีดในชั้นตื้น ก็จะทำให้ฟิลเลอร์เป็นก้อนบวมได้
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้
การใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไปในครั้งเดียว อาจทำให้เกิดการจับตัวเป็นก้อนและบวมในบริเวณที่ฉีด ดังนั้น การใช้ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสม และการค่อย ๆ เพิ่มตามความจำเป็น จะช่วยลดปัญหานี้
เทคนิคการฉีด
เทคนิคการฉีดที่ไม่ถูกต้องหรือขาดความชำนาญ อาจทำให้ฟิลเลอร์กระจายตัวไม่สม่ำเสมอ หรือฉีดในชั้นผิวที่ไม่เหมาะสม ส่งผลให้เกิดการเป็นก้อนและบวมได้
ลักษณะโครงสร้างทางกายวิภาคบางตำแหน่งไม่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์
เช่น กล้ามเนื้อรอบดวงตาบริเวณหัวตา อาจทำให้เกิดการดันฟิลเลอร์ขึ้นมาจนเป็นก้อนได้
สำหรับวิธีการป้องกันและแก้ไข ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์และมีเทคนิค รวมทั้งใช้ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ซึ่งหากเกิดปัญหาฟิลเลอร์เป็นก้อน สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดเอนไซม์เพื่อสลายฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิก หรือปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีการแก้ไขที่เหมาะสม
โปรแกรมแนะนำ
รีวิวจากผู้เข้ารับบริการ



คำถามที่พบบ่อย
ทุกคำถามมีคำตอบ
สามารถใช้ฟิลเลอร์ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ พร้อมกันได้หรือไม่?
โปรแกรมฟิลเลอร์สามารถใช้ร่วมกับการรักษาอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น เช่น การใช้ฟิลเลอร์ร่วมกับการฉีดสารลดเลือนริ้วรอย สำหรับริ้วรอยและร่องลึกบนใบหน้า รวมถึงการใช้สาร Collagen Biostimulator เพื่อซ่อมแซมผิวเสื่อมสภาพตามวัย ให้ฟื้นฟูความชุ่มชื้นและยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวดูสดใส และช่วยลดเลือนสัญญาณแห่งวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการผสานการรักษาเหล่านี้ช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ระยะเวลาพักฟื้นหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างไร?
หลังจากการฉีดฟิลเลอร์ อาจมีตุ่มนูน หรือรอยแดงเล็กน้อยในบริเวณที่ฉีด แต่โดยทั่วไปอาการเหล่านี้จะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือ 2-3 วัน และมีโอกาสเกิดรอยฟกช้ำหรือบวมได้ ซึ่งมักจะปรากฏภายใน 24-48 ชั่วโมงหลังการรักษา และจะลดลงเรื่อย ๆ และหายไปภายใน 1-2 สัปดาห์ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ และสามารถปกปิดได้บางส่วนด้วยการใช้เครื่องสำอาง
การฉีดฟิลเลอร์ทำให้ใบหน้าจะเปลี่ยนไปหรือดูบวมไหม?
ที่อัฐฐา คลินิก เรามุ่งเน้นการเสริมความงามให้ดูเป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ควรมีการวินิจฉัยและวิเคราะห์ปัญหาโครงสร้างใบหน้าที่เกิดกระดูกทรุดและปริมาตรไขมันหายไป และวางแผนการรักษาเป็นขั้นตอนเพื่อยกโครงสร้างใบหน้าขึ้น การใช้ฟิลเลอร์มากเกินไปอาจทำให้เกิดลักษณะใบหน้าที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้น ด้วยเทคนิคการอัลตราซาวนด์สแกนเห็น ทำให้ใช้ฟิลเลอร์ตามความจำเป็น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูธรรมชาติ ดูสดชื่นขึ้น ซึ่งไม่ควรมีใครสังเกตเห็นว่าฉีดฟิลเลอร์ หากการรักษาทำอย่างถูกต้อง
ฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน?
อัฐฐา คลินิก เน้นการฉีดฟิลเลอร์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์กรดไฮยาลูโรนิกคุณภาพสูง เช่น Juvederm, Restylane, Definisse, Belotero, Yvoire โดยทั่วไปแล้ว ฟิลเลอร์ส่วนใหญ่จะอยู่ได้นาน 12-24 เดือน และจะค่อย ๆ สลายตัวไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ไลฟ์สไตล์และปัจจัยภายในของผู้ป่วย อาจส่งผลต่อระยะเวลาของผลลัพธ์ได้
สามารถเพิ่มฟิลเลอร์ได้ไหมหากยังไม่พอใจผลลัพธ์ ?
คำตอบ คือ ได้ ซึ่งเพื่อหลีกเลี่ยงผลลัพธ์ที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ คุณหมอจะเริ่มฉีดในปริมาณไม่มากในครั้งแรก และสามารถเพิ่มปริมาณฟิลเลอร์ในครั้งต่อ ๆ ไป ตามที่วางแผนไว้ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ตามโครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคล
สามารถแต่งหน้าหรือใช้สกินแคร์ตามปกติหลังการฉีดฟิลเลอร์ได้ไหม?
หลังการรักษา แนะนำให้หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อลดความเสี่ยงของการติดเชื้อ