โปรแกรม EndoliftX
“ยกหน้า ด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ ไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า”
นวัตกรรมใหม่ล่าสุด ในการยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ที่มีขนาดเล็กเท่าเส้นผม เข้าไปยกกระชับใบหน้าและสลายไขมันจากภายในโครงสร้างใบหน้า สามารถปรับรูปทรงใบหน้าให้กระชับได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ซึ่งข้อดี คือ สามารถใช้เลเซอร์ไฟเบอร์ส่งพลังงานเลเซอร์รักษาเฉพาะจุดโดยตรง ช่วยในการยกกระชับใบหน้า และสลายไขมัน
ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ประเทศสหรัฐอเมริกา หรือ US-FDA และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประเทศไทย มีงานวิจัยรองรับมากมาย จึงรับรองได้ว่าเป็นเครื่องมือที่มีความปลอดภัย
EndoliftX with Facial Ultrasound
เทคนิคเฉพาะคุณหมอสร้อย การเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์ด้วยเทคนิคอัลตราซาวนด์ (Facial Ultrasound)
เนื่องจากหัตถการนี้อยู่กึ่งกลางระหว่างการผ่าตัดดึงหน้า และไม่ผ่าตัด (Minimal Invasive) จึงต้องมีความแม่นยำ ด้านโครงสร้างใบหน้าที่ต้องการรักษา คุณหมอสร้อย แห่งอัฐฐา คลินิก ผู้บุกเบิกการใช้ Ultrasound (Facial Ultrasound) ร่วมกับเอนโดลิฟท์ (Endolift) จึงใช้เทคนิคภาพ Ultrasound นำทาง (Ultrasound-guided) เพื่อรักษาได้ตรงตำแหน่งปัญหาของคนไข้มากที่สุด โดยประเมินการรักษาตามปัญหาโครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคล (Personalized treatment) เพื่อให้การรักษามีความแม่นยำและเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มผลลัพธ์และความปลอดภัย โดยการใช้ภาพ Ultrasound นำทาง ช่วยให้มองเห็นความลึกของการรักษาด้วยเลเซอร์ได้โดยตรง คุณหมอสร้อยจึงพัฒนาแนวทางการรักษาแบบหลายชั้น ที่สามารถมุ่งเป้าหมายไปยังชั้นโครงสร้างเฉพาะสำหรับการยกกระชับผิว การสลายไขมัน หรือทั้งสองอย่างรวมกัน

Endolift คืออะไร?
Endolift (เอ็นโดลิฟท์) คือ เทคโนโลยีเลเซอร์ไฟเบอร์ ช่วยกระชับใบหน้าและลดไขมัน โดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ไม่เจ็บปวดและใช้เวลาพักฟื้นน้อยมาก ต่างจากการรักษาด้วยเครื่องยกกระชับอื่น ๆ ที่ทำงานจากภายนอกผิวหนัง โดยเอนโดลิฟท์ทำงานจากภายใน (Minimal-Invasive) โดยใช้เส้นใยแก้วนำแสงขนาดเล็กมากกว่าเข็ม “เข็มนาโน” สอดเข้าไปผ่านรูเข็มเล็ก ๆ เพื่อส่งเลเซอร์ความยาวคลื่น 1,470 นาโนเมตรไปใต้ชั้นผิว ซึ่งผลลัพธ์คือช่วยกระชับคอลลาเจนที่มีอยู่ทันที ทำให้เกิดผลลัพธ์การยกกระชับหลังทำในทันที และจะกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนใหม่ ทำให้เห็นผลลัพธ์ผิวกระชับดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 3-6 เดือนถัดไป ขณะที่ความร้อนจากพลังงานเลเซอร์ยังสามารถลดเซลล์ไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด ทำให้สามารถปรับรูปทรงใบหน้าและร่างกาย
นอกจากนี้ Endolift สามารถลดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและไขมันส่วนเกินบนใบหน้า ยกกระชับใบหน้าหรือส่วนต่างๆของร่างกายได้ โดยไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า ซึ่งบริเวณที่มักจะทำการรักษาบ่อยที่สุด มีดังนี้
บนใบหน้า
- ยกเปลือกตา ที่ไขมันหนาหย่อน
- ลดถุงใต้ตา ก้อนไขมันใต้ตา
- ลดกระเปาะไขมันหน้าแก้ม
- ลดไขมันกระเปาะแก้ม
- ลดคางสองชั้น เหนียง
- ช่วยลำคอเรียบเนียน
บนร่างกาย โดยช่วยยกกระชับผิวและสลายไขมันในบริเวณต่าง ๆ เช่น
- ต้นแขนด้านใน
- หน้าท้องและบริเวณรอบสะดือ
- ต้นขาด้านนอกและด้านใน
- หัวเข่า
- ข้อเท้า
โปรแกรม Endolift เหมาะกับใคร?
- เหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับใบหน้า แต่ไม่อยากผ่าตัดดึงหน้า
- ผู้ที่เคยผ่าตัดถุงใต้ตา แต่เมื่ออายุเพิ่มขึ้นถุงใต้ตาก็กลับมา และไม่อยากผ่าตัดใหม่
- ผู้ที่เคยผ่าตัดเปลือกตามาแล้ว แต่รู้สึกไขมันเปลือกตายังเยอะอยู่ ดูไม่กระชับ และไม่อยากผ่าตัดใหม่
- ผู้ที่เคยทำเครื่องยกกระชับทุกตัว แต่ไขมันยังเยอะอยู่
- ผู้ที่เคยดูดไขมันแล้วผิวไม่เรียบ
ข้อดีของโปรแกรม Endolift
Endolift เป็นการยกกระชับใบหน้า ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องเสี่ยงเป็นแผลเป็นจากการผ่าตัดดึงหน้า
- ไม่ต้องดมยาสลบ
- ไม่ต้องพักฟื้น
- เหมาะกับทุกสภาพผิวและสีผิว
- สามารถใช้ร่วมกับขั้นตอนการฟื้นฟูผิวและชะลอวัยอื่น ๆ ได้ เช่น การฉีดฟิลเลอร์
- ผลลัพธ์อยู่นาน 2-5 ปี

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
Endolift แม้จะเป็นวิธีการยกกระชับผิวที่ไม่ได้ผ่าตัดดึงหน้า แต่ก็มีผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น
อาการบวม
เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด ซึ่งมักจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน แต่ในบางรายอาจนานถึง 1 สัปดาห์
รอยฟกช้ำ
อาจเกิดจากการฉีดยาชาหรือการเคลื่อนย้ายของเลเซอร์ภายใต้ผิวหนัง ซึ่งรอยฟกช้ำนี้จะค่อย ๆ จางหายไป 1-2 สัปดาห์
อาการชา
เนื่องจากการบาดเจ็บชั่วคราวของเส้นประสาทรับความรู้สึก ผู้ป่วยบางรายอาจรู้สึกชาบริเวณที่รักษา ซึ่งอาการนี้มักจะหายไปภายในหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน
บาดเจ็บของเส้นประสาทขากรรไกรล่าง
ในบางกรณี เส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับริมฝีปากล่างอาจถูกทำให้ไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ชั่วคราว โดยใช้เวลา 6-8 สัปดาห์ขึ้นไปในการฟื้นตัว
การติดเชื้อ
แม้จะเกิดขึ้นได้ยาก แต่หากดูแลหลังการทำไม่ถูกต้อง อาจเกิดการติดเชื้อได้
การตายของเนื้อเยื่อไขมัน (Fat Necrosis)
ซึ่งอาจทำให้เกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง เป็นภาวะที่พบได้ยากและเกิดจากการบาดเจ็บและการสูญเสียการไหลเวียนของเลือด
ข้อแนะนำ
ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ที่มีเทคนิคที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำในการดูแลหลังการทำอย่างเคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงและเพิ่มประสิทธิภาพของผลลัพธ์
ราคาของโปรแกรม Endolift
เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีใหม่ รวมทั้งเป็นหัตถการที่อยู่กึ่งกลางระหว่างการผ่าตัดและไม่ผ่าตัด (Minimal Invasive) จึงต้องอาศัยประสบการณ์และเทคนิคของแพทย์ในการทำให้เกิดความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดี จึงทำให้มีราคาสูง แต่มีข้อดี คือทำครั้งเดียวอยู่ได้นาน 2-5 ปี คนไข้ไม่ต้องเสี่ยงดมยา ระยะฟักฟื้นสั้นมาก และไม่มีแผลเป็นจากการผ่าตัด
ระยะเวลาการทำ Endolift
การทำเอนโดลิฟท์ ใช้เวลาประมาณ 30-90 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนบริเวณที่รักษา

ขั้นตอนการรักษา
- ทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะรักษา
- ฉีดยาชาเฉพาะที่เข้าไปยังจุดที่ต้องเปิดแผลเพื่อให้บริเวณนั้นชาระหว่างการรักษา
- หากมีการรักษาบริเวณเปลือกตา จะมีการใส่แผ่นป้องกันตา (Corneal Shields) เพื่อปกป้องดวงตา
- ผู้ให้บริการจะใช้เข็มเล็ก ๆ เจาะเป็นจุดเปิดเพื่อสอดเส้นใยแก้วนำแสงที่ใช้เพียงครั้งเดียวเข้าไปใต้ผิว
- พลังงานจากเลเซอร์ จะถูกส่งผ่านเส้นใยแก้วนำแสง โดย Endolift จะส่งพลังงาน
จากภายในผิวผ่านเส้นใยแก้ว ไปยังความลึกที่ต้องการรักษา คุณหมอจะทำการรักษาตามความลึกของชั้นโครงสร้างใบหน้าที่ต้องการรักษา
ความรู้สึกระหว่างการรักษา
เนื่องจากการใช้ยาชา ขั้นตอนการรักษาจะไม่ค่อยเจ็บ ในระดับความเจ็บ 0-10 ผู้ป่วยส่วนใหญ่อยู่ที่ระดับความไม่สบายเพียง 1-2
การดูแลหลังการทำ
เมื่อขั้นตอนเสร็จสิ้น ผู้ให้บริการอาจทายาปฏิชีวนะเฉพาะที่ตรงจุดที่เปิดแผล ซึ่งจุดเปิดเล็ก ๆ นี้จะปิดเองภายใน 24-48 ชั่วโมง
การฟื้นตัวหลังการทำ Endolift
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อย อาการบวมปานกลาง และอาจมีรอยฟกช้ำจากการฉีดยาชา ซึ่งจะบวมมากที่สุดประมาณ 1-3 วัน หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ดีขึ้น ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังการรักษา
- สามารถใช้น้ำแข็งประคบบริเวณที่รักษา และนวดเบา ๆ ในช่วง 2-3 วันแรก หลังการรักษา
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก
- หลีกเลี่ยงอาหารเค็ม
- ผู้ที่รักษาหลายบริเวณและมีการยกกระชับผิวร่วมกับการลดไขมัน อาจได้รับคำแนะนำให้ใส่สายรัดยืดหยุ่นตอนกลางคืน เพื่อช่วยพยุงผิวในช่วงการฟื้นฟู

เปรียบเทียบโปรแกรม Endolift (เอ็นโดลิฟท์) กับ Endotine (เอ็นโดไทน์) ต่างกันอย่างไร
วิธีการและเทคโนโลยีที่ใช้
- Endolift (เอ็นโดลิฟท์) : เอนโดลิฟท์ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ใยแก้วนำแสงขนาดเล็ก ที่สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อปล่อยพลังงานความร้อน ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว ที่ทำงานจากภายในผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด
- Endotine (เอ็นโดไทน์) : เอนโดไทน์เป็นการผ่าตัด โดยใส่วัสดุทางการแพทย์คล้ายหมุดที่เรียกว่า เอนโดไทน์ ซึ่งใช้สำหรับยกกระชับผิว จึงต้องมีการเปิดแผลเพื่อฝังเอนโดไทน์เข้าไปยึดเนื้อเยื่อ
ลักษณะการทำหัตถการ
- Endolift (เอ็นโดลิฟท์) : ไม่ต้องผ่าตัด ใช้การสอดเส้นใยเลเซอร์เข้าใต้ผิวหนัง ใช้เวลาพักฟื้นน้อย และไม่ต้องพักรักษาตัว
- Endotine (เอ็นโดไทน์) : ต้องมีการผ่าตัดเปิดแผล เพื่อฝังวัสดุเอนโดไทน์เข้าใต้ผิวหนัง ซึ่งอาจต้องพักฟื้นหลังการทำและใช้เวลานานกว่าในการฟื้นตัว
ผลลัพธ์และความคงทน
- Endolift (เอ็นโดลิฟท์) : ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันทีหลังการทำ แต่จะมีการสร้าง
คอลลาเจนเพิ่มเติมในช่วง 3-6 เดือนถัดไป ซึ่งผลลัพธ์มักคงอยู่ได้นานถึง 2-5 ปี - Endotine (เอ็นโดไทน์) : ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า โดยมักอยู่ได้เป็นปีหรือหลายปี เนื่องจากวัสดุที่ฝังเข้าไปจะช่วยยึดผิวหนังให้คงสภาพการยกกระชับ
ความเหมาะสมในการรักษา
- Endolift (เอ็นโดลิฟท์) : เหมาะกับผู้ที่ต้องการการยกกระชับผิว ปรับรูปทรงใบหน้า แบบไม่ต้องผ่าตัดดึงหน้า และมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง
- Endotine (เอ็นโดไทน์) : เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหย่อนคล้อยมาก ต้องผ่าตัดเพื่อการยกกระชับที่ชัดเจน และผลลัพธ์ที่คงอยู่ได้นาน
ผลข้างเคียงและความเสี่ยง
- Endolift (เอ็นโดลิฟท์) : ผลข้างเคียงที่พบบ่อยคืออาการบวม และรอยฟกช้ำเล็กน้อย ซึ่งหายได้เองภายในสัปดาห์
- Endotine (เอ็นโดไทน์) : อาจมีอาการบวมช้ำมากหลังการผ่าตัด และมีแผลผ่าตัด
การตายของเนื้อเยื่อไขมัน (Fat Necrosis)
ซึ่งอาจทำให้เกิดก้อนแข็งใต้ผิวหนัง เป็นภาวะที่พบได้ยากและเกิดจากการบาดเจ็บและการสูญเสียการไหลเวียนของเลือด
สรุป: เอนโดลิฟท์ (Endolift) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับผิวแบบไม่ผ่าตัดและฟื้นตัวไว ขณะที่เอนโดไทน์ (Endotine) เหมาะสำหรับผู้ที่หย่อนคล้อยรุนแรง ต้องการการยกกระชับที่ชัดเจนกว่า แม้จะมีการผ่าตัดและเวลาพักฟื้นที่นานขึ้น
เปรียบเทียบโปรแกรม Endolift กับ Ultherapy ต่างกันอย่างไร
เทคโนโลยีและวิธีการทำงาน
- Endolift : เอนโดลิฟท์ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ใยแก้วนำแสงขนาดเล็กที่สอดเข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อปล่อยพลังงานความร้อน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิวจากภายใน เป็นการทำงานโดยใช้พลังงานจากเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 1,470 นาโนเมตร ทำให้สามารถยกกระชับและลดไขมันใต้ผิวได้
- Ultherapy : ใช้เทคโนโลยีอัลตราซาวนด์ที่มีโฟกัสสูง (High-Intensity Focused Ultrasound) เพื่อส่งพลังงานความร้อนไปยังชั้นผิวที่เรียกว่า SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ผ่าตัดดึงหน้า ช่วยยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัดและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
ลักษณะการทำหัตถการ
- Endolift : ใช้การสอดเส้นใยเลเซอร์เข้าไปภายในโครงสร้างใบหน้าที่ต้องการรักษาโดยตรง (Minimal Invasive)
- Ultherapy : ใช้คลื่นพลังงานอัลตราซาวนด์ที่มีโฟกัสสูงเป็นพลังงานความร้อนไปยังชั้น SMAS โดยไม่ได้ใช้เครื่องมือใส่เข้าไปในโครงสร้างใบหน้า
ผลลัพธ์และความคงทน
- Endolift : ผลลัพธ์สามารถเห็นได้ทันทีหลังการทำ และจะมีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเพิ่มในช่วง 3-6 เดือนถัดไป ซึ่งผลลัพธ์มักอยู่ได้นานประมาณ 2-5 ปี
- Ultherapy : ผลลัพธ์จะเริ่มเห็นได้ในระยะเวลา 2-3 เดือนหลังการทำและจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วง 6 เดือน ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
ความเหมาะสมในการรักษา
- Endolift : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับผิวและลดไขมันใต้ผิว โดยเฉพาะบริเวณที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง และเหมาะกับเคสที่มีถุงใต้ตา ถุงกระเปาะแก้ม เหนียงเยอะๆ
- Ultherapy : เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับผิวในชั้นลึก โดยไม่ต้องการมีแผลและไม่ต้องการพักฟื้น
ผลข้างเคียงและความเสี่ยง
- Endolift : อาจมีอาการบวม และฟกช้ำเล็กน้อยหลังการทำ
- Ultherapy : อาจมีอาการบวมเล็กน้อย รอยแดง และอาการรู้สึกตึงผิว ซึ่งมักจะหายไปเองภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันหลังการทำ
สรุป: เอนโดลิฟท์ (Endolift) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับและลดไขมันใต้ผิว โดยเฉพาะเคสที่มีถุงใต้ตา ถุงกระเปาะแก้ม เหนียงเยอะๆ ขณะที่อัลเทอราพี (Ultherapy) เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการยกกระชับชั้นลึกโดยไม่ต้องผ่าตัดหรือเปิดแผล
รีวิว Endolift
เอารูปจาก เว็ปไซต์
https://www.endolift.com/en/results/#face-results
โปรแกรมแนะนำ
เกี่ยวกับโปรแกรม ENDOLIFT










