ในปัจจุบันการอัลตราซาวด์ใบหน้า (Facial Ultrasound) ถูกนำมาใช้ร่วมกับการทำหัตถการความงาม โดยหนึ่งในข้อดีของการใช้อัลตราซาวนด์ คือ สามารถระบุตำแหน่งของฟิลเลอร์เดิมที่เคยฉีดไปได้
ในปัจจุบันการอัลตราซาวด์ใบหน้า (Facial Ultrasound) ถูกนำมาใช้ร่วมกับการทำหัตถการความงาม โดยหนึ่งในข้อดีของการใช้อัลตราซาวนด์ นอกจากความละเอียดแม่นยำในการทำหัตถการความงามที่จะมีมากขึ้นแล้ว คืออัลตราซาวนด์ยังสามารถระบุตำแหน่งของฟิลเลอร์เดิมที่เคยฉีดไปได้ ทำให้คนไข้หลาย ๆ คนที่เคยทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ( Filler ) เริ่มให้ความสนใจกับ “การอัลตราซาวนด์เพื่อตรวจฟิลเลอร์ ว่าฉีดถูกชั้นหรือผิดชั้น” ซึ่งบางครั้งการสื่อสารแบบนี้โดยปราศจากบริบททางคลินิก อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด จนนำไปสู่การกล่าวหา หรือวิพากษ์วิจารณ์การรักษาของแพทย์ท่านอื่นอย่างไม่เป็นธรรม
โดยความเป็นจริงแล้ว แพทย์ทุกคน ต่างเคยเรียนมาว่า “เราต้องฟังคนไข้ก่อน” หรือ “Clinical comes first” ยกตัวอย่างเช่น ก่อนที่แพทย์จะทำการส่งตรวจ ไม่ว่าจะเป็นอัลตราซาวนด์ หรือตรวจเลือดแล็บใด ๆ ก็ตาม ซึ่งจุดตั้งต้นของการวินิจฉัย ต้องเริ่มจากการฟังและเข้าใจปัญหาที่คนไข้เสมอ (Chief Complaint) โดยแพทย์ต้องดู “คน” ก่อนดู “ผลตรวจ” เสมอ
ดังนั้น หากคนไข้ที่เคยทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ( Filler ) กับแพทย์คนที่ 1 โดยไม่มีอาการผิดปกติใด ๆ ตามมา เช่น ฟิลเลอร์ไม่เข้าเส้นเลือด ฉีดแล้วไม่เป็นก้อน ไม่บวมอักเสบ แต่ต่อมาคนไข้มาปรึกษากับแพทย์คนที่ 2 เพราะต้องการให้แพทย์คนที่ 2 อัลตราซาวนด์เพื่อตรวจดูว่าแพทย์คนที่ 1 ฉีดฟิลเลอร์ผิดชั้นหรือไม่ ซึ่งสิ่งนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราควรใช้การอัลตราซาวนด์ เพื่อตัดสินว่าแพทย์ฉีดถูก หรือฉีดผิดชั้นหรือไม่
เพราะแม้ว่าการอัลตราซาวนด์ จะทำให้แพทย์และคนไข้สามารถมองเห็นตำแหน่งของฟิลเลอร์ ( Filler ) เดิมที่ฉีดไปก่อนหน้านี้ได้ แต่การอัลตราซาวนด์ไม่สามารถมองเห็นถึงเจตนา หรือแผนการรักษาของแพทย์คนที่ 1 ได้เลย เนื่องจากการทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ไม่ใช่แค่หัตถการทางการแพทย์เท่านั้น แต่คือศิลปะของการวางเพื่อโครงสร้างใบหน้าอย่างประณีต ซึ่งการอัลตราซาวนด์ดูจึงไม่สามารถทำให้รู้ได้ว่าแพทย์ที่ทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์นั้น ฉีดเพื่อยก (Lift) หรือเพื่อเติมเต็ม (Fill) รวมถึงเลือกฉีดสารเติมเต็มชั้นนั้น เพราะแก้ไขตามโครงสร้างใบหน้าของคนไข้หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่ใช้เทคนิคการฉีดที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ด้วยเหตุนี้เอง หากคนไข้ที่เคยทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ( Filler ) มาแล้ว แต่รู้สึกว่าผลลัพธ์ที่ออกมานั้นไม่สวย ไม่ถูกใจ แต่ไม่ได้มีอาการที่ไม่พึงประสงค์แต่อย่างใด สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนแก้ไขฟิลเลอร์เดิม หรือทำการสลายฟิลเลอร์ที่เคยฉีดไปได้ หากแต่การจะ “หาคนผิด” เพราะคิดว่าแพทย์คนก่อนหน้าฉีดผิดชั้น ไม่ควรเกิดขึ้นจากการแปลผลของการอัลตราซาวนด์อย่างไร้บริบท
สุดท้ายนี้ ขอให้เราใช้เทคโนโลยี การนำอัลตราซาวนด์มาใช้ดูฟิลเลอร์ ( Filler ) เพื่อ “เข้าใจ” ไม่ใช่เพื่อ “ตัดสิน” ใครว่าฉีดผิดชั้น และขอให้คนไข้ทุกคน ได้รับการดูแลอย่างมีหัวใจ เห็นคุณค่า และได้รับความจริงใจจากแพทย์ทุกท่านอย่างแท้จริง
ด้วยรักจากใจ
พญ อทิตา อินทร์วงศ์ (หมอสร้อย) ว.44231
แพทย์เฉพาะทางรังสีวินิจฉัย หัตถการอัลตราซาวนด์วินิจฉัยโครงสร้างใบหน้า ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ในงานยกกระชับปรับโครงหน้า