สวยแบบธรรมชาติ คือเทรนด์ความงามที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ดูได้จากเหล่าบรรดาดาราคนดัง โดยเฉพาะฝั่ง Hollywood ที่นิยมไปสลายฟิลเลอร์ออก เพื่อคืนใบหน้าที่แลดูเป็นธรรมชาติ
สวยแบบธรรมชาติ คือเทรนด์ความงามที่มาแรงที่สุดในตอนนี้ ดูได้จากเหล่าบรรดาดาราคนดัง โดยเฉพาะฝั่ง Hollywood ที่นิยมไปสลายฟิลเลอร์ออก เพื่อคืนใบหน้าที่ดูเป็นธรรมชาติ ต่างจากก่อนหน้านี้ที่มักจะทำโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์กันจนเกิดภาวะหน้าล้น (Overfilled syndrome) ที่เราเคยกล่าวถึงไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้
ดารา Hollywood แห่สลายฟิลเลอร์ กลับคืนสู่ความงามอย่างแลดูเป็นธรรมชาติ
ตัวอย่างเหล่าคนดังที่อกมายอมรับว่าได้สลายฟิลเลอร์ออก เพื่อความงานมที่แลดูเป็นธรรมชาติ เช่น เอมี ชูเมอร์ (Amy Schumer) ที่โพสต์ผ่านอินสตราแกรมยอมรับว่า เธอเคยลองฉีดฟิลเลอร์ที่ใบหน้า แต่สุดท้ายตัดสินใจสลายออก เพราะรู้สึกว่ามันทำให้เธอดูไม่เป็นธรรมชาติ แถมยังพูดติดตลกว่าเธอดูเหมือน “มาเลฟิเซนต์” ตัวร้ายในภาพยนตร์จากดิสนีย์
ขณะที่ ไคลี่ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) เปิดเผยว่าเธอเริ่มฉีดฟิลเลอร์ที่ริมฝีปากตั้งแต่อายุ 17 ปี เนื่องจากรู้สึกไม่มั่นใจกับริมฝีปากที่บางตามธรรมชาติของตัวเอง จนริมฝีปากที่อวบอิ่มของเธอกลายเป็นเอกลักษณ์ และมีอิทธิพลอย่างมากต่อเทรนด์ความงามก่อนหน้านี้ กระทั่งต่อมาไคลี่ได้ตัดสินใจเอาฟิลเลอร์ทั้งหมดออก พร้อมให้เหตุผลว่า เธออยากกลับมาดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น และรู้สึกดีกับริมฝีปากในแบบเดิมของตัวเองอีกครั้ง
ด้าน ลินด์เซย์ โลฮาน (Lindsay Lohan) เป็นอีกหนึ่งคนดังที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก หลังจากที่เธอปรากฏตัวด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์สดใสขึ้น เนื่องจากเธอตัดสินใจสลายฟิลเลอร์บางส่วนออก พร้อมทั้งเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการฟื้นฟูใบหน้า รักษาความอ่อนเยาว์ ตามโครงสร้างใบหน้าของตัวเองอย่างแท้จริง

โดยที่ผ่านมา หลายคนอาจมีความเข้าใจว่าฟิลเลอร์ที่ฉีดไปนั้น จะอยู่บนใบหน้าเราได้แค่ 1-2 ปี แล้วจะสลายไปเอง จึงต้องไปเติมฟิลเลอร์เรื่อย ๆ จนสุดท้ายเกิดภาวะหน้าล้น ซึ่งความจริงแล้วตอนนี้มีงานวิจัยใหม่ ๆ ออกมา พบว่าฟิลเลอร์สามารถอยู่บนใบหน้าของเราได้นานกว่านั้น โดยบางเคสสามารถอยู่ได้นาน 10 ปี ซึ่งข้อดี คือไม่ต้องเติมบ่อย ๆ แต่หากบางเคสที่ไม่รู้ว่าฟิลเลอร์เก่ายังอยู่ แล้วไปเติมฟิลเลอร์ที่เดิมซ้ำ ๆ อาจทำให้ฟิลเลอร์เกิดการสะสมเกิดภาวะหน้าล้นได้
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ และโปรแกรมสลายฟิลเลอร์ เทคนิคคุณหมอสร้อย
ดังนั้น การวินิจฉัยปัญหาของแต่ละคน เพื่อจะเติมฟิลเลอร์เข้าไปใหม่จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก โดย พญ. อทิตา อินทร์วงศ์ หรือคุณหมอสร้อย ผู้ก่อตั้งอัฐฐา คลินิก (ATTA Clinic) จึงใช้เทคนิคที่สามารถมองเห็นได้ เพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างตรงจุด แม่นยำ ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์แบบสแกนเห็น หรือ SFIL Program โดยการใช้อัลตราซาวนด์สแกนดูโครงสร้างใบหน้า (Facial Ultrasound) ที่สามารถช่วยในการตรวจสอบตำแหน่งของฟิลเลอร์เดิมที่ฉีดไปแล้ว ทำให้การเติมฟิลเลอร์ใหม่ สามารถหลีกเลี่ยงฟิลเลอร์เดิมที่ยังเหลืออยู่ เพื่อให้ใบหน้าของคนไข้มีปริมาณฟิลเลอร์ที่ไม่มากเกินไป ป้องกันการเกิดภาวะหน้าล้น ซึ่งสอดคล้องกับเทรนด์ความงามปัจจุบัน ที่เน้นสวยแบบธรรมชาติ

นอกจากการมองเห็นตำแหน่งฟิลเลอร์เดิมแล้ว หัวใจสำคัญของ SFIL Program คือการยกกระชับปรับรูปหน้าตามโครงสร้างใบหน้าจริงของแต่ละบุคคล เพราะสามารถมองเห็นโครงสร้างที่อยู่ลึกลงไปมากกว่าชั้นผิวหนัง ตั้งแต่ชั้นไขมัน กล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น และเส้นเลือด ทำให้สามารถออกแบบการรักษาที่สอดคล้องกับโครงสร้างใบหน้า มอบผลลัพธ์ความงามที่เหมาะกับโครงสร้างใบหน้าของแต่ละคน โดยไม่เน้นการเติมแบบถมร่อง ไม่ใช่การเติมจนล้น ซึ่งสิ่งนี้เป็นการผสานระหว่างศาสตร์ทางการแพทย์ และศิลปะความงามเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เพื่อมอบผลลัพธ์ความงามที่สวยละมุน แลดูอ่อนเยาว์ตามสัดส่วนธรรมชาติ
ขณะที่ในบางเคสที่เกิดปัญหาภาวะหน้าล้นขึ้นแล้ว การสลายฟิลเลอร์ออกเพื่อให้ใบหน้ากลับมาดูเป็นธรรมชาติก็มีความจำเป็น โดยเทคนิคของคุณหมอสร้อย คือ จะตรวจวินิจฉัยด้วยอัลตราซาวนด์ เพื่อทำการประเมินตำแหน่งฟิลเลอร์เดิม ว่าอยู่ที่ส่วนไหน หรือมีความลึกเท่าไร และทำการรักษาสลายฟิลเลอร์ด้วยเทคนิคอัลตราซาวนด์นำทาง (Ultrasound-guided) ไปยังตำแหน่งฟิลเลอร์ที่มีปัญหาได้อย่างแม่นยำเฉพาะเจาะลง โดยไม่สลายโดนเนื้อเยื่อในส่วนอื่น ๆ ของใบหน้า
3 ขั้นตอน คืนใบหน้าที่แลดูเป็นธรรมชาติ เทคนิคคุณหมอสร้อย
เพราะการสลายอย่างเดียว ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กลับมาสวยธรรมชาติได้ ดังนั้น งานแก้ไขฟิลเลอร์เป็นก้อน หน้าล้น ด้วยเทคนิคคุณหมอสร้อย แพทย์เฉพาะทาง เชี่ยวชาญเทคนิคอัลตราซาวนด์ ประกอบด้วย
1. Resolve สลายก้อนฟิลเลอร์อย่างแม่นยำ ด้วยการตรวจวิเคราะห์ด้วย Ultrasound เพื่อแก้ไขปัญหาถูกจุด
2. Restructure ยกกระชับและปรับโครงสร้างใหม่ ด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับโครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคล โดยเทคนิคอัลตราซาวด์นำทาง เช่น โปรแกรม Ultherapy หรือ โปรแกรม Endolift เพื่อเสริมความกระชับ ยกพยุงโครงสร้าง และจัดเรียงชั้นเนื้อเยื่อให้เหมาะสม
3. Refine ปรับแต่งอย่างละเอียด ด้วยโปรแกรมฟิลเลอร์ หรือสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ตามโครงสร้างใบหน้าเฉพาะบุคคล เพื่อให้ได้รูปหน้าที่สมดุล และเป็นธรรมชาติที่สุด